วันอาทิตย์ที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2557

ล่อแหลมเซียมซี วัดสงฆ์ธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร จ.เชียงใหม่




ชั่งน้ำหนักพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร
วันนี้มาดู วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร ดำรงฐานะพระอารามหลวง ยังตั้งคงอยู่บนยอด ดอยสุเทพ ทั้งเป็นหนึ่งในวัดดังของ จังหวัดจังหวัดเชียงใหม่ค่ะ ที่มีความสำคัญหลายที่สุด ซึ่งในวัดมีเจดีย์ทรงเชียงแสน เป็นที่ฐานสูงย่อมุมระฆังทรงแปดเหลี่ยมปิดด้วยกาญจนาจังโก ในลานเจดีย์เป็นจุดชมทิวทัศน์เวียงเชียงใหม่ และครอบครองทางขึ้นเป็นบันไดนาคเจ็ดเศียรทำปูนประดับกระจกค่ะ
ทั่งนี้ตรวจวัดพระธาตุดอยสุเทพ ต่อขึ้นเมื่อปี พ.ศ. ๑๙๒๙ และในเวลาพญากือนา สิ่งกษัตริย์องค์ที่ ๘ แห่งอาณาจักรล้านธัญเขต ราชวงศ์เม็งราย ทั้งพระองค์ทรงได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุองค์ใหญ่ครับ ซึ่งจะได้ทรงเก็บไว้สักการะบูชาส่วนพระองค์ถึง ๑๓ ปี มาบรรจุไว้ที่นี่อีก พร้อมกับด้วยการทรงอธิษฐานเสี่ยงช้างสวัสดิมงคลเพื่อเสี่ยงเดาสุ่มสถานที่ประดิษฐานขอรับกระผม และพอช้างมิ่งขวัญเดินมาถึงยอดดอยสุเทพค่ะ มันก็พร้องเพรียกสามครั้งด้วย ซึ่งพร้อมกับทำทักษิณาวัติสามรอบ แล้วล้มลงไป พระองค์จึงโปรดเกล้าฯให้ทิ่มดินลึก ๘ ศอก กว้าง ๖ วา ๓ ศอก หาแท่นอัคนีใหญ่ ๖ แท่นค่ะ มาวางยังไม่ตายรูปหีบใหญ่ในช่อง แล้วอัญเชิญภิกษุบรมพระบรมธาตุลงประดิษฐานไว้ด้วยค่ะ และจากนั้นทับถมด้วยหิน ซึ่งก่อพระสถูปสูง ๕ วา ให้ครอบบนบานนั้น อีกด้วยเหตุนี้จึงห้ามพุทธศาสนิกชนที่จะไปนมัสการสวมรองเท้าในบริเวณพระธาตุอีกด้วยซ้ำ และมิให้หญิงนั้นเข้าไปเขตนั้น ในปี พ.ศ. ๒๐๘๑ ในสมัยพระเมืองเกษเกล้า ของพันวรรษาองค์ที่ ๑๒ ได้ทรงโปรดฯและให้เสริมตุ๊เจ้าเจดีย์ให้สูงกว่าแต่แรกด้วย เป็นกว้าง ๖ วา สูง ๑๑ ศอก ซึ่งพร้อมทั้งให้ช่างชี้นำทองคำทำเป็นรูปดอกบัวทองใส่บนยอดเจดีย์ และซึ่งต่อมาเจ้าท้าวทรายคำ ราชโอรสได้แบบให้ตีทองคำดำรงฐานะแผ่นติดที่พุทธรูปบรมธาตุค่ะ
ซึ่งในปี พ.ศ. ๒๑๐๐ พระมหาญาณมงคลโพธิ์ วัดอโศการาม ภาราลำพูนนั้นก็ได้สร้างบันไดนาคหลวงทั้ง ๒ ข้าง เพื่อให้ประชาชนขึ้นไปสักการะได้สะดวกขึ้นอีกด้วยค่ะ และกระทั่งถึงสมัยอาจารย์บาศรีวิชัย ท่านจะได้ต่อถนนขึ้นไป โดยถนนที่สร้างนี้ได้มีความยาวถึง ๑๑.๕๓ กิโลค่ะ


ที่มาของข่าว: http://pumandulol.blogspot.com/2014/09/blog-post_97.html
ติดตาม อัพเดท  ดูชะตา ได้ที่ :  http://pumandulol.blogspot.com/

. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น